จากต้นแบบตะวันตก สู่ทรงเฉพาะตัวสำหรับสุภาพบุรุษไทย
ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 สูทกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสุภาพบุรุษในโลกตะวันตก และยังคงสถานะนั้นมาจนถึงปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้ว ต้นกำเนิดของ “สูทสากล” มีความซับซ้อนและน่าสนใจมากกว่าที่หลายคนคิด และเมื่อเดินทางมาถึงไทย สูทก็ถูกตีความใหม่ในแบบที่เข้ากับบริบท วัฒนธรรม และรูปร่างของชายไทย จนกลายเป็นเสื้อสูทแบบ “ทรงสมัย” ที่เป็นเอกลักษณ์

จุดเริ่มต้นของสูทสากล
จากขุนนางสู่ชนชั้นกลาง
เสื้อสูทในความหมายสากล มีรากเหง้ามาจากเสื้อคลุมฟร็อกโค้ต (frock coat) และเสื้อชนชั้นสูงของยุโรปในศตวรรษที่ 18 – 19 โดยเฉพาะในอังกฤษและฝรั่งเศส ชุดเหล่านั้นมีลักษณะหรูหรา ตัดเย็บซับซ้อน มีกระดุมมากมายและปลายชายยาวประบ่า
แต่เมื่อเข้าสู่ยุควิกตอเรีย (Victorian Era) สังคมเริ่มให้ความสำคัญกับความสุภาพ ความเรียบร้อย และประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น เสื้อสูทเริ่มแปรรูปมาเป็นชุดสำหรับ “นักธุรกิจ” และ “ข้าราชการ” โดยย่อส่วนลง สวมใส่ง่าย และมีโครงสร้างที่ชัดเจน นี่คือจุดเริ่มต้นของ Classic Suit ที่เรารู้จักในปัจจุบัน

สไตล์ของสูทสากลที่โดดเด่น

สูทอังกฤษ (British Cut)
มีโครงสร้างชัดเจน ใช้โครงไหล่แข็ง มีการเข้ารูปที่ช่วงเอว ให้ภาพลักษณ์ภูมิฐาน เหมาะกับงานทางการ

สูทอิตาเลียน (Italian Cut)
เน้นความพอดีตัวแบบไร้โครง (soft construction) ไหล่ลู่ธรรมชาติ ช่วงอกเปิดกว้าง ดีไซน์ทันสมัยและดูผ่อนคลาย

สูทอเมริกัน (American Cut)
ทรงตรง ไม่เข้ารูปมาก เน้นความสบายในการสวมใส่ เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการลุคที่เป็นทางการเกินไป

สูทในบริบทของไทย
ประเทศไทยรับเอาสูทมาใช้ตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเริ่มจากราชสำนัก ขุนนาง และกลุ่มชนชั้นนำ ก่อนจะค่อย ๆ แพร่สู่ข้าราชการและประชาชนทั่วไปในช่วงศตวรรษที่ 20 สูทกลายเป็นชุดสำหรับพิธีการ งานราชการ และงานสำคัญทางสังคมอย่างงานแต่งงาน ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ทำให้การสวมสูทต้องมีการปรับตัว เช่น การใช้ผ้าที่เบา ระบายอากาศดี และการตัดเย็บที่เรียบง่ายลง แต่ยังคงความสง่างามไว้
“ทรงสมัยซังฮี้”: สูทที่เข้าใจคนไทย ทั้งรูปร่างและบุคลิก สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของสูทร้าน “ทรงสมัยซังฮี้” ไม่ใช่แค่ผ้า หรือดีไซน์ แต่คือ “ทรง” ที่ถูกออกแบบมาด้วยความเข้าใจในสรีระและลักษณะเฉพาะของชายไทย ที่แตกต่างจากชาวตะวันตกในหลายมิติ
ทรงร่วมสมัยแบบพอดีตัว
(Modern Thai Fit)
- ตัดเย็บให้แนบกับลำตัวอย่างมีสมดุล
- ไม่รัดรูปเกินไปจนขยับลำบาก แต่ไม่หลวมจนดูไม่เป็นทางการ
- เหมาะกับรูปร่างคนไทยที่มักมีช่วงไหล่แคบหรือช่วงลำตัวสั้นกว่าชาวยุโรป
การวางทรงแบบ
“เอวต่ำแต่เน้นเส้นเอว”
- ต่างจากสูทฝรั่งที่มักวางจุดเอวสูงเพื่อยืดขา
- สูทของร้านวางเส้นเอวให้ต่ำเล็กน้อยเพื่อให้ดูสมดุลกับช่วงขาและลำตัวของชายไทย
โครงสร้างไหล่แบบลู่ตามธรรมชาติ
(Natural Shoulder)
- เน้นความผ่อนคลาย ไม่เสริมไหล่จนใหญ่เกินจริง
- เหมาะกับผู้สวมใส่ที่ต้องการลุคสุภาพโดยไม่ดูขึงขังเกินไป
ปลายชายเสื้อทรงตรง
หรือเว้าเล็กน้อย
- ออกแบบให้ชายเสื้อไม่บาน และไม่ยาวเกินไป
- เพื่อให้เข้ากับความสูงเฉลี่ยของผู้ชายไทย และไม่บดบังช่วงสะโพก
รูปทรงที่ปรับให้ใช้งาน
ได้หลากหลาย
- ทรงเดียวสามารถใส่ได้ทั้งในงานราชการ งานแต่งงาน หรืองานพิธีอื่น ๆ
- มีความเรียบแบบ Classic แต่ร่วมสมัยในรายละเอียด
